LEELA CHARMING PORTUGAL – SPAIN

เวลา 22.00 น. <p style="color: red;">This text is red.</p>คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินเอมิเรตส์พบเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยต้อนรับ และอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร

เวลา 01.35 น. ออกเดินทางสู่ ดูไบ โดยสายการบิน เอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 385

เวลา 04.45 น. เดินทางถึงดูไบ เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง (มีเวลาต่อเครื่องประมาณ 2.30 ชม.)

เวลา 07.25 น. ออกเดินทางสู่สนามบินลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เที่ยวบินที่ EK 191

เวลา 12.35 น. เดินทางถึงสนามบินลิสบอน ประเทศโปรตุเกส หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองพร้อมตรวจเช็คสัมภาระ

นำท่านเดินทางสู่ Sintra เมืองที่พักตากอากาศที่ได้รับการจัดให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กร UNESCO ที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวอันแสนสวยงามมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ตัวเมืองอันร่มรืนท่ามกลางหุบเขา ธรรมชาติอันสวยงามทั้งภูผาและมหาสมุทธ ไปจนถึงปราสาทโบราณที่มีให้เลือกชมนับสิบแห่ง อยู่ห่างจากเมืองลิสบอนประมาณ 25 กิโลเมตร

นำท่านชม ย่านเก่าเมืองซิงตรา (Old Centre of Sintra) จุดศูนย์รวมตึกอาคารที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมเก่าแก่ในเมือง รวมถึงพิพิธภัณฑ์สำคัญ ๆ ต่าง ๆ เช่น Museu Anjos Texeira และ Museu de História Natural เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีโบสถ์ ร้านค้า ร้านอาหารต่าง ๆ อีกมากมาย

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ Cabo da Roca แหลมโรกา จุดที่ถือว่าเป็นสุดเขตทวีปยุโรปทางตะวันตก จุดตะวันตกสุดของโปรตุเกสและของทวีปยุโรป ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติซินทรา ห่างจากลิสบอนเมืองหลวงประมาณ 45 กม. ตัวแหลมจะยื่นออกไปทางตะวันตกสู่มหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นชะง่อนผาสูงประมาณ 100 เมตรเกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลซึ่งทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่สูงกว่า 30 เมตร และถือได้ว่าใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ จากตรงนี้ท่านจะได้ชมความงามของมหาสมุทรแอตแลนติกอันยิ่งใหญ่ไพศาลในยามอาทิตย์อัศดง เป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก และยังมี ป้อม Cabo da Roca มีความสำคัญมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ในด้านการป้องกันตามแนวชายฝั่งและการเดินเรือ ประภาคารบนแหลมนี้ยังคงใช้งานอยู่ถึงปัจจุบัน

นำท่านเดินทางสู่ Pena National Palace พระราชวังที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือเมืองซินตร้าโดยพระราชวังแห่งนี้ถือว่าเป็น หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของประเทศโปรตุเกส ในอดีตพระราชวังถูกใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์โปรตุเกสมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 14 ภายในถูกตกแต่งประดับประดาอย่างวิจิตรงดงาม

มื้อเย็น บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Bono Lisboa อาหารโปรตุเกส สไตล์ Lisbon

นำท่านเข้าสู่ที่พัก The Emerald House Lisbon Curio Collection By Hilton หรือเทียบเท่า

มื้อเช้าบริการอาหารท่าน ณ ห้องอาหารโรงแรม The Emerald House Lisbon Curio Collection By Hilton

นำท่านเข้าชม วิหารลิสบอน (Lisbon Cathedral) เป็นอาสนวิหารใหญ่ประจำกรุงลิสบอนสร้างขึ้นในราวปีค.ศ. 1150 อาสนวิหารที่มีลักษณะที่ดูคล้ายป้อมปราการ ด้วยเหตุที่ถูกสร้างขึ้นในยุคสงครามครูเสดคร้ังที่2 สงครามระหว่างชาวคริสต์และแขกมัวร์มีหอคอยสงูขนาบประตูทางเข้าทั้งสองข้าง

นำท่านเยือนวิหารหินสีขาว (Jeronimos Monastery) อันวิจิตรตระการตาแห่งลิสบอน สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้า Manuel I เพื่อเป็นเกียรติแก่การเดินทางของ Vasco da Gama สู่ดินแดนใหม่ มหาวิหารแห่งนี้คือผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมสไตล์ Manueline ที่โดดเด่นด้วยลวดลายละเอียดอ่อนราวงานลูกไม้แกะสลัก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก ภายในสงบขรึม งดงาม และเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่หลงใหลในศิลปะ สถาปัตยกรรม และเรื่องราวแห่งยุคการสำรวจอันรุ่งโรจน์ของโปรตุเกส

มื้อเที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Cervejaria Ramiro ร้านซีฟู้ดสุดคลาสสิกที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1956 และขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในร้านอาหารทะเลที่ดีที่สุดในลิสบอน

นำท่านชม หอคอยบีเล็ม (Belem Tower) ป้อมปราการป้องกันทางทะเลสมัยโบราณด่านหน้าของกรุงลิสบอนสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1515-1521 โดยสถาปนิกคนสำคัญชื่อ Francisco de Arruda โดยมีรูปแบบของหอคอยเป็นศิลปะแบบเรอเนสซองซ์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO

จากนั้นนำท่านชม สำนักสงฆ์กราซา ( โปรตุเกส : Convento da Graça ) เป็นหนึ่งในสำนักสงฆ์ ที่เก่าแก่ที่สุด ในลิสบอนสำนักสงฆ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในลาร์โก ดา กราซา ในเขต แพริช เซา วิ เซนเต บนเนินเขาที่สูงที่สุดของลิสบอน สำนักสงฆ์ แห่งนี้ หันหน้าไปทางหอระฆังซึ่งมองเห็นเมืองและแม่น้ำทากัส สำนักสงฆ์แห่ง นี้เคยเป็นของคณะนักบวชเซนต์ออกัสตินและครั้งหนึ่งเคยเป็นสำนักงานใหญ่ของสำนักสงฆ์เหล่านี้ในโปรตุเกส

นำท่านชม จุดชมวิว Portas do Sol ตั้งอยู่ตรงกลางเส้นทางที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการพักผ่อนอย่างกะทันหัน การเยี่ยมชมจุดชมวิวแห่งนี้ยังเป็นข้ออ้างในการเพลิดเพลินกับเอกลักษณ์เฉพาะตัวของลิสบอนด้วยทัศนียภาพอันสวยงามของแนวชายฝั่งตะวันออกของเขตอัลฟามาและแม่น้ำเตโจซึ่งทอดยาวไปจนถึงริมฝั่งแม่น้ำในเขาวงกตอันเป็นเอกลักษณ์ของถนน บันได และตรอกซอกซอย จากจุดสูงสุดของจุดชมวิว คุณยังสามารถชื่นชมโดมต่างๆ และสถาปัตยกรรมประเภทต่างๆ ที่ประกอบกันเป็นโบสถ์ซานโตเอสเตวาว เซามิเกล และเซาวิเซนเตเดฟอราได้อีกด้วย

มื้อเย็น บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Sala de Corte ร้านเนื้อพรีเมียมบ่มแห้ง ย่างเตาถ่าน ดึงรสชาติของเนื้อออกมาอย่างเต็มที่

นำท่านเข้าที่พัก The Emerald House Lisbon Curio Collection By Hilton หรือเทียบเท่า

มื้อเช้าบริการอาหารท่าน ณ ห้องอาหารโรงแรม The Emerald House Lisbon Curio Collection By Hilton

นำท่านชม “Praca do Comercio” หรือ “จัตุรัสแห่งการค้า” แลนด์มาร์กสุดยิ่งใหญ่ใจกลางกรุงลิสบอน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Tagus สัมผัสบรรยากาศสวยคลาสสิกของอาคารสีเหลืองทองสไตล์นีโอคลาสสิกที่โอบล้อมจัตุรัสไว้รอบด้าน พร้อมชมความงดงามของประตูชัย Arco da Rua Augusta ที่ตั้งตระหง่านเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ปราสาทเซนต์จอร์จ (Castle of Sao Jorge) สร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 11 ในช่วงยุคแขกมัวร์เพื่อเป็นป้อมปราการป้องกันภัย ต่อมาในปี ค.ศ.1147 กษัตริย์ราชวงศ์มัวร์ เข้ามายึดครองและเปลี่ยนเป็นที่พักอาศัย ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุดในลิสบอน

นำท่านเดินทางไปยัง เมืองฟารู (Faro) ใช้เวลาเดินทาง 2.40 นาที เป็นเมืองท่าที่สำคัญของโปรตุเกส เมืองนี้เป็นเขตที่อยู่ทางใต้สุดของโปรตุเกส เป็นเมืองท่าที่ติดกับสเปนเหมาะแก่การแวะพักก่อนจะเดินทางข้ามไปยังสเปน

นำท่านชม เขตเมืองเก่า (Cidade Velha) ของฟาโร (Faro) หรือที่รู้จักในชื่อ "Vila-Adentro" เป็นย่านประวัติศาสตร์ที่มีเสน่ห์และเต็มไปด้วยเรื่องราวทางวัฒนธรรม เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศย้อนยุคและสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย

มื้อเย็น บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Restaurante Hábito ภัตตาคารแบบ Rooftop ที่ทำให้ท่านสามารถทานอาหารไปพร้อมกับชมวิวเมืองในมุมสูงได้

นำท่านเข้าที่พัก EVA SENSENS HOTEL หรือเทียบเท่า

มื้อเช้า บริการอาหารท่าน ณ ห้องอาหารโรงแรม EVA SENSENS HOTEL

นำท่านเดินทางไปยัง เซวิลญ่า (Seville) ซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นอันดาลูเซีย เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความเขียวขจีพื้นที่โล่งสวนสาธารณะและสวนดอกไม้งานเทศกาลที่จัดขึ้นในเมืองเซบีญ่าได้รับการกล่าวขานมากที่สุด เนื่องจากเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในแคว้นอัลดาลูเซีย

นำท่านชม มหาวิหารเซวิลล์ (Catedral de Sevilla) มหาวิหารเซวิลล์นั้นเป็นสถานที่ที่จะได้ชมทั้งสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคแบบยุคกลางอันงดงาม แต่ไม่ได้แค่งดงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกใหญ่เป็นอันดับสามในบรรดามหาวิหารของคริสต์ศาสนจักรอีกด้วย

มื้อเที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Míng Chinese Restaurant

จากนั้นนำท่านสู่ Barrio Santa Cruz คือย่านเก่าที่มีเสน่ห์เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่เต็มไปด้วยตรอกซอกซอยแคบๆ ถนนหินปูที่มีสีสันสดใส ร้านค้าท้องถิ่น และสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ย่านนี้มีประวัติยาวนานและมีบรรยากาศที่อบอุ่น พร้อมทั้งมีสวนและลานกลางแจ้งที่สวยงามที่ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายในการเดินเล่นและสัมผัสวัฒนธรรมสเปนดั้งเดิมอย่างแท้จริง

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เซตาส เดอ เซวิลลา (Setas de Sevilla) หรือ เมโทรโพล พาราโซล (Metropol Parasol) เป็นโครงสร้างสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ในเมืองเซวิล ประเทศสเปน ออกแบบโดยสถาปนิกยอร์เกน เมเยอร์ รูปร่างเหมือนเห็ดยักษ์ ทำจากไม้และเป็นโครงสร้างไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในมีพื้นที่สำหรับตลาด, พิพิธภัณฑ์โบราณคดี และดาดฟ้าที่สามารถชมวิวเมืองเซวิลได้ โครงสร้างนี้เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวสำคัญของเมือง

นำท่านชม การระบำสเปนหรือฟลาเมงโกแด๊นซ์ (Flamenco Dance) เป็นการเต้นที่แพร่หลายในหมู่ชาวตะวันตก ด้วยสเน่ห์และลักษณะจำเพาะที่ไม่ว่าใคร หรือช่วงวัยไหนก็สามารถเต้นได้

มื้อเย็น บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Antigua Abacería de San Lorenzo บริการท่านด้วยอาหารสเปนสไตล์ HOMEY ที่เชฟจะเน้นการคัดสรรวัตถุดิบชั้นดี มาปรุงเป็นอาหารเสปนที่ทานง่าย

นำท่านเข้าที่พัก NH Sevilla Plaza de Armas หรือเทียบเท่า

มื้อเช้า บริการอาหารท่าน ณ ห้องอาหารโรงแรม NH Sevilla Plaza de Armas

นำท่านชม จัตุรัสกว้างใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยอาคารครึ่งวงกลม มีเสาซุ้มโค้งเรียงเป็นแนวยาว ฐานของแต่ละโค้งประดับด้วยภาพกระเบื้องเคลือบสีสด ซึ่งเป็นเครื่องหมายสัญลักษณ์ของทุกจังหวัดในสเปนบรรยากาศรอบๆมีความคึกคักทั้งจากร้านขายของ นักท่องเที่ยว และศิลปินที่มาเร่ทำการแสดง

จากนั้นนำท่านสู่ Royal Alcazar of Seville หรือที่รู้จักกันในชื่อ "Real Alcázar de Sevilla" เป็นพระราชวังที่สวยงามตระการตา ตั้งอยู่ใจกลางเซบียา ประเทศสเปน เป็นอนุสรณ์สถานที่โดดเด่น พระราชวังอัลคาซาร์ เดิมสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 10 เพื่อเป็นป้อมปราการโดยราชวงศ์มุสลิมที่ปกครองในสมัยอัล-อันดาลุส ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา มีการขยายและปรับปรุงหลายครั้ง สะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมสไตล์มัวร์ โกธิก เรอเนซองส์ และ บาโรก ทำให้ที่นี่เป็นที่ประทับของกษัตริย์สเปนหลายพระองค์ นอกจากนี้ยังได้ถูกเลือกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์ยอดนิยมเรื่อง "Game of Thrones" อีกด้วย

มื้อเที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Restaurante San Marco Santa Cruz ร้านอาหารอิตาเลียนสุดโรแมนติก นำเสนออาหารเมดิเตอร์เรเนียนสไตล์อิตาเลียนแท้ๆ โดยใช้วัตถุดิบท้องถิ่นสดใหม่

นำท่านเดินทางสู่ มัสยิดใหญ่แห่งกอร์โดบา ที่ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นโบสถ์คริตส์ จึงทำให้การตกแต่งนั้นยังคงเป็นศิลปะแบบมุสลิมแต่ก็ยังคงมีกลิ่นอายของศิลปะแบบคริตส์ผสมอยู่ด้วย จึงทำให้โบสถ์นี้มีความพิเศษและนักท่องเที่ยวต่างไม่พลาดที่จะไปเยี่ยมชมที่นี่

นำท่านชม สะพานหินข้ามแม่น้ำกวาดัลกิบีร์ แม่น้ำสายสำคัญ ปลายสุดของสะพานมีหอคอยที่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงนิทรรศการแสดงให้เห็นการอยู่ร่วมกันของชาวคริสต์ ชาวยิว และชาวมุสลิม, ได้อย่างสันติสุขในเมืองกอร์โดบา

จากนั้น นำท่านสู่ ถนนหินกรวด อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ที่นี่มีโบสถ์ยิวเก่าที่มีรูปปั้นของโมนิเดส มีบ้านเรือน, โรงแรม, ร้านกาแฟ,มีพิพิธภัณฑ์เครื่องหนัง และสถานที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงสนามหญ้าเล็ก ๆ ในช่วงเวลาตอนเย็นจะมีการบรรเลงเพลง เป็นเพลงท้องถิ่น สร้างความทรงจำและความประทับใจขึ้นไปอีก

มื้อเย็น บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Taberna Casa Pedro Ximénez ร้านอาหารวิวหอระฆังของมัสยิดกอร์โดบา

นำท่านเข้าที่พัก Eurostars Conquistador หรือเทียบเท่า

มื้อเช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม Eurostars Conquistador

นำท่านสู่ ปราสาทกษัตริย์ (Alcázar de los Reyes Cristianos) ชมการจัดสวนแบบอาหรับ มีต้นไม้รูปทรงเรขาคณิต นอกจากนี้ ก็มีจุดชมทัศนียภาพเมืองกอร์โดบาในมุมสูง ซึ่งมีความสวยงามและน่าประทับใจ สถานที่แห่งนี้ในอดีตก็คือที่พักของเจ้าเมืองในสมัยโรมัน ต่อมาก็เป็นที่พักของเจ้าเมืองชาววิซิกอธ แล้วเป็นที่พักของเจ้าเมืองมุสลิม หลังจากที่ชาวคริสต์แย่งชิงเมืองกอร์โดบาคืนจากชาวมุสลิม กษัตริย์อัลฟองโซที่ 11 ก็สร้างปราสาทกษัตริย์คริสต์

มื้อเที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บริการท่านด้วย อาหารสไตล์ทาปาส อาหารพื้นเมืองของสเปน

นำทุกท่านเปลี่ยนบรรยากาศ พร้อมย่นระยะเวลาเดินทาง กับการนั่งรถไฟความเร็วสูงสัญชาติสเปน (High Speed Train) ที่สามารถทำความเร็วได้มากถึง 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถย่อระยะเวลาเดินทางไปได้มาก

มื้อเย็น บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร BOTIN เป็นภัตตาคารที่เก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก บริการท่านด้วยเมนูพื้นเมืองแบบชาวมาดริด กับ หมูหันโบราณ ระดับ Guinness world record

นำท่านเข้าสู่ที่พัก NH Collection Madrid Gran Vía หรือเทียบเท่า

มื้อเช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม NH Collection Madrid Gran Vía

นำท่านสู่ พระราชวังหลวง (PALACIO REAL) ตั้งอยู่บนเนินเขาบริเวณริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส ที่มีความงดงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังอื่นในทวีปยุโรปเนื่องจากแนวความคิดเปรียบเทียบความใหญ่โตของพระราชวังแวร์ซายส์และความสวยงามของพระราชวังลูฟว์ในฝรั่งเศส พระราชวังหลวงแห่งนี้จึงถูกสร้างด้วยหินทั้งหลังในปี ค.ศ. 1738 ในสไตล์บาร็อค

มื้อเที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร KAI THAI RESTAURANT บริการอาหารไทย

นำท่านสู่ จัตุรัส Puerta del Sol เป็นอีกหนี่งจัตุรัสในเมืองมาดริดที่เชื่อมต่อกับ Plaza Mayor ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางในการเดินทางไปยังเมืองต่างๆเอกลักษณ์ของจัตุรัสแห่งนี้คือ อาคารเก่าที่ด้านบนเป็นหอนาฬิกา และยังมีร้านอาหาร ร้านค้ารายรอบทำให้จัตุรัสแห่งนี้มีความครึกครื้น

จากนั้นนำท่านสู่ จัตุรัสใหญ่ (Plaza Mayor) และแหล่งชุมชนเก่ากลางกรุงมาดริด ปัจจุบันลานสี่เหลี่ยมแห่งนี้บางทีใช้จัดเทศกาลงานรื่นเริง ตลาดนัดขายของ บ้างอ่านหนังสือ บ้างอาบแดด บ้างดื่มกินกาแฟ เปิดแผงวาดรูป มีนักแสดงเร่เปิดหมวกบ้าง สัมผัสวิถีชีวิตของชาวมาดริดได้อย่างแท้จริง

อิสระชอปปิ้ง ถนน Gran Vía, ถนนสายชอปปิ้ง กับความยาวเพียง 1.3 กม.แต่อัดแน่นไปด้วย ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ชอปแบรนด์เนม โรงหนัง แหล่งบันเทิงต่างๆ ทำให้เส้นนี้จึงได้รับการขนานนามว่า “Spanish Broadway” นอกจากนี้ท่านสามารถชื่นชมกับสถาปัตยกรรม ที่งดงาม เพราะตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 ได้เปิดโอกาสให้สถาปนิกมาร่วมออกแบบสร้างอาคาร จึงมีหลากสไตล์Secession สถาปัตยกรรมสไตล์เวียนนา ออสเตรีย  สถาปัตยกรรมแนว Plateresque ,Neo-Mudejar และ Art Deco เป็นต้น

มื้อเย็น อิสระอาหารเย็น เพื่อความสะดวกในการเที่ยวชม

19.00 น. เดินทางสู่สนามบินมาดริด

22.05 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินดูไบ โดยสายการบินเอมิเรสต์ เที่ยวบิน EK144

07.10 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ เพื่อแวะต่อเครื่อง

09.00 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินเอมิเรสต์ เที่ยวบิน EK370

18.25 น. เดินทางถึงกรุงเทพฯ ด้วยความสวัสดิภาพ