มนต์เสนห์...แห่งยุโรปตะวันออก
แคว้นบาวาเรีย ถือว่าเป็นภูมิภาคที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมันเคยเป็นรัฐอิสระที่ปกครองตนเอง ด้วยความยิ่งใหญ่จนได้สมญานามว่า แคว้นแห่งอัศวินยุคกลาง โดยมีเมืองมิวนิกเป็นศูนย์กลางความมั่งคั่งทั้งทางด้านเศรษฐกิจและศิลปะต่างๆ หลายแขนงผสมผสานพาดผ่านสงครามและเรื่องราวดุจเทพนิยาย ดั่งเช่นความงามของสถาปัตยกรรมอันล้ำค่าอย่าง ปราสาทนอยชวานสไตล์
นับตั้งแต่วันที่เริ่มสร้างจนถึงปัจจุบัน ปราสาทแห่งนี้มีอายุราว 140 ปี ผู้ที่ออกแบบปราสาทแห่งนี้ไม่ใช่สถาปนิก แต่กลับเป็นคนออกแบบฉากละครโดย ริชาร์ด วากเนอร์ พระสหายคู่พระทัยในรัชสมัยของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 ทำให้ปราสาทแห่งนี้เหมือนปราสาทแห่งจินตนาการและโดดเด่นกว่าปราสาทแห่งอื่น ซึ่งภายนอกนั้นสร้างให้ดูเหมือนปราสาทในยุคกลาง แต่การตกแต่งภายในเต็มไปด้วยศิลปะในยุคต่างๆ อย่างไบเซนไทน์ โรมันเนสก์ โกธิก หากจะกล่าวถึงโบราณสถานที่สวยงามดุจภาพวาดอีกหนึ่งแห่งของแคว้นบาวาเรีย ก็คงต้องมอบให้กับ ปราสาทนูเรมเบิร์ก
 
ปราสาทนูเรมเบิร์ก สถานที่บันทึกอยู่ในประวัติศาสตร์ของแคว้นบาวาเรียในยุคกลาง ที่สามารถย้อนอดีตกลับไปได้จนถึงศตวรรษที่ 10 หรือสมัยยุคจักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ และยังเป็นศูนย์กลางของชาวโรมันที่ยังคงทิ้งอดีตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบ้านสถานที่สำคัญต่างๆ ที่บ่งบอกถึงความเจริญรุ่งตั้งแต่ยุคกลางโดยการใช้หินก้อนใหญ่มาปูทำพื้นถนน บ้านเรือนที่ปลูกสร้างสไตล์โรมัน ได้รับสมญานามว่าเมืองแห่งเทพนิยายของเยอรมัน หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบความสวยงามของธรรมชาติ ขุนเขาสลับซับซ้อน ปราสาทหรือพระราชวัง ทางเดินที่มีบรรยากาศที่ปูด้วยก้อนหินแบบยุคกลาง โบสถ์สวยเก่าแก่ หิมะที่ปกคลุมขาวโพลนไปทั่วทั้งเมือง สถานที่แห่งนี้เป็นกองบัญชาการทางการทหารเพื่อต่อสู่ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองนูเรมเบิร์ก จึงได้รับผลกระทบอย่างหนัก เมื่อจบสงคราม เมืองนูเรมเบิร์กได้รับการร่วมมือร่วมใจจากชาวเยอรมันทั้งประเทศเพื่อทำการฟื้นฟูจนกลับมาอยู่ในสภาพใกล้เคียงของเดิมอย่างที่สุด
โบฮีเมีย แคว้นที่ได้ถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นราชอาณาจักรแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐเช็กในปัจจุบัน รัฐโบฮีเมียยังแฝงสถานที่อันทรงคุณค่าอย่าง กรุงปราก และ เชสกี้คลุมลอฟ ทั้งสองเมืองได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเมืองมรดกโลกของ องค์การยูเนสโก้
กรุงปราก หากอยากย้อนเวลากลับไปในอดีตนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับกรุงปรากแห่งนี้ เพราะที่นี่เหมือนกับจะทำให้เราได้ย้อนกลับไปสู่ความรุ่งเรืองของยุโรปตะวันออกในอดีต เพราะกรุงปรากนั้นเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นจากหลายยุคสมัย ตั้งแต่ศิลปะแบบโกธิก ,ศิลปะยุคเรอเนสซองต์ที่แต่งเติมจนเกิดความหรูหราอย่างสมบูรณ์แบบ หรือจะเป็นสถาปัตยกรรมบาโรคและสถาปัตยกรรมแบบอาร์ตนูโวก็ยังมีให้เห็น ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นได้รวบรวมความอลังการดั่งสวรรค์สร้างอยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ ย่านใจกลางเมืองของกรุงปรากซึ่งมากมายจนเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งได้เลยทีเดียว ด้วยภูมิประเทศที่อุดมสมบูรณ์มีแม่น้ำวัลตาวาเปรียบดั่งสายโลหิตที่ไหลตัดผ่านกลางกรุงปราก ทำหน้าที่คอยหล่อเลี้ยงเมืองแห่งประวัติศาสตร์จนเกิดความมั่งคั่งของเศรษฐกิจและวัฒนธรรมในอาณาจักรแห่งนี้ อาจเพราะว่ากรุงปรากไม่ใช่จุดยุทธศาสตร์ทางการทหารดั่งเช่น นูเรมเบิร์กแห่งแคว้นบาวาเรีย จึงไม่ถูกพิษภัยจากสงครามโลกทั้งสองครั้งและยังเก็บรักษาอดีตอันรุ่งเรืองของยุโรปไว้ให้ชาวโลกได้ชื่นชมสมกับตำแหน่งมรดกโลก
สำหรับ เมืองเชสกี้ครุมลอฟ นั้นจะอยู่ทางตอนใต้ของแคว้นโบฮีเมีย ตั้งอยู่ติดกับลำธารขนาดเล็กแหล่งกำเนิดของแม่น้ำวัลตาวา ก่อนที่จะไหลต่อไปเป็นกระแสน้ำสายใหญ่ผ่านกรุงปราก ช่วงที่แม่น้ำวัลตาวาไหลผ่านเชสกี้ครุมลอฟดูเหมือนเป็นเพียงลำธารเล็กๆ สายน้ำคดไปเคี้ยวมา จนทำให้ภูมิทัศน์ของตัวเมืองดูราวกับหยดน้ำอันศักดิ์สิทธิ์จากสวรรค์ เชสกี้คลุมลอฟในปัจจุบันเป็นเมืองที่ดูสงบและสง่างามอันแสนโรแมนติก
ขอเชิญมาสัมผัสเรื่องราวในอดีต...วิถีชีวิตที่เรียบง่ายในภูมิภาคยุโรปตะวันออก แหล่งอารยะที่ดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันล้ำค่า ให้ท่านได้ระลึกถึงร่องรอยของสงคราม ความสูญเสียอันแสนเศร้า ผลงานของเหล่าศิลปิน และความลับที่ยังแอบซ่อนอยู่...รอให้ท่านมาร่วมค้นหาอีกหลายสรรพสิ่ง พร้อมกับการบริการที่จะคอยแต่งเติมความรู้สึกพิเศษด้วย รสชาติ และ บรรยากาศการพักผ่อน ในแบบเรา...ลีลาวดีฮอลิเดย์
ลีลา...ที่เป็นตัวคุณ
| 
.jpg)
