ตุรกี ดินแดนสองทวีปสุดมหัศจรรย์ By Cherry Blossom
ตุรกีดินแดนสองทวีป
ตุรกีเป็นประเทศสองทวีปที่มีดินแดนอยู่ทั้งในทวีปเอเชียและทวีปยุโรป
จึงทำให้การท่องเที่ยวในตุรกีมีหลายประเภท ไมว่าจะเป็นการปีนเขา ชมธรรมชาติ เที่ยวทะเล ดำน้ำ ตกปลา ล่องแก่ง และชมโบราณสถานเชิงศิลปะและประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังเป็นแหล่งช็อปปิ้งสินค้าประเภทหัตถกรรมที่โด่งดังอีกด้วย
ประเทศตุรกีมี 4 ฤดูกาล ได้แก่
ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนเมษายน เดือนพฤษภาคม)
ฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน - เดือนกันยายน)
ฤดูใบไม้ร่วง (เดือนตุลาคม - เดือนพฤศจิกายน)
ฤดูหนาว (เดือนธันวาคม เดือนมีนาคม)
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวของตุรกีนั้น มีที่น่าสนใจพร้อมประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่งมากมายจะมีไรบ้างนั้น ลีลาวดี ฮอลิเดย์ ขอยกตัวอย่าง เช่น
นครโบราณเอฟฟิซุส
นครโบราณเอฟฟิซุส เมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีที่สุดเมืองหนึ่งเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนา เอฟิซุส ขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน ถนนสร้างด้วยหินอ่อนผ่านใจกลางเมืองเก่าที่สองข้างทางเต็มไปด้วยซากสิ่งก่อสร้างเมื่อสมัย2,000 ปีที่แล้ว
คัปปาโดเกีย
คัปปาโดเกียเมืองที่ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก ดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์แปรสภาพเป็นหุบเขา ร่องลึก เนินเขา กรวยหิน และเสารูปทรงต่างๆ ที่งดงาม แต่ที่พลาดไม่ได้เลยคือขึ้นชมบอลลูนชมความงามของเมืองคัปปาโดเจีย จะต้องออกจากโรงแรมประมาณ 05.30 น.ชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเจียในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยาก
ปามุคคาเล่
ปามุคคาเล่ เมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีเมืองหนึ่งเคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนก จากกรีก ซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมือง ซึ่งรุ่งเรืองขึ้นในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซียและกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราชภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนา เอฟฟิซุส ขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน นำท่านเดินบนถนนหินอ่อนผ่านใจกลางเมืองเก่าที่สองข้างทางเต็มไปด้วยซากสิ่งก่อสร้างเมื่อสมัย 2,000 ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรงละครกลางแจ้งที่สามารถจุผู้ชมได้กว่า 30,000 คน ซึ่งยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบันนี้ มีห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้, ห้องสมุดโบราณที่มีวิธีการเก็บรักษาหนังสือไว้ได้เป็นอย่างดีทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นศิลปะแบบ เฮเลนนิสติคที่มีความอ่อนหวานและฝีมือประณีต
สุเหร่าเซนต์โซเฟีย
สุเหร่าเซนต์โซเฟีย หรือ โบสถ์ฮาเจีย โซเฟีย สุเหร่าเซนต์โซเฟียเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ปัจจุบันเป็นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิม ในอดีตเป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์ พระเจ้าจักรพรรดิ์คอนสแตนตินเป็นผู้สร้างเมื่อประมาณคริสต์ศตวรรษที่13 ใช้เวลาสร้าง 17 ปี เพื่อเป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์ แต่ถูกผู้ก่อการร้ายบุกทำลายเผาเสียวอดวายหลายครั้งเพราะเกิดการขัดแย้งระหว่างพวกที่นับถือศาสนาคริสต์กับศาสนาอิสลาม จวบจนถึงรัชมสมัยของพระเจ้าจัสตินเนียน มีอำนาจเหนือตุรกี จึงได้สร้างโบสถ์เซนต์โซเฟียขึ้นใหม่ ใช้เวลาสร้างฐานโบสถ์ 20 ปี ตัวโบสถ์ 5 ปี เมื่อประมาณปี พ.ศ. 1996 (ค.ศ 1435) พระองค์ต้องการให้เป็นสิ่งสวยงามที่สุดได้พยายามหา สิ่งของมีค่าต่างๆ มาประดับไว้มากมาย สร้างเสร็จได้มีการเฉลิมฉลองกันอย่าง มโหฬาร ต่อมาเกิดแผ่นดินไหวอย่างใหญ่ทำให้แตกร้าวต้องให้ช่างซ่อมจนเรียบร้อยในสภาพเดิมเมื่อสิ้นสมัยของจักรพรรดิจัสตินเนียน ถึงสมัยพระเจ้าโมฮัมเหม็ดที่ 2 มีอำนาจเหนือตุรกี และเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลามจึงได้ดัดแปลงโบสถ์หลังนี้ให้เป็น สุเหร่าของชาวอิสลาม
สุเหร่าสีน้ำเงิน
สุเหร่าสีน้ำเงิน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ทางศาสนา ที่มีความสวยงามแห่งหนึ่งในประเทศตุรกี ชื่อของสีเหร่านี้ได้มาจากกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินที่ใช้ปูตลอดแนวฝาผนังด้านใน และถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ ซึ่งเคยเป็นวังของจักรพรรดิไบเซนไทน์ โดยสุลต่านอาหเม็ตที่ 1 ค.ศ. 1609 ใช้เวลาสร้างทั้งหมด 7 ปี สุเหร่าสีน้ำเงิน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ทางศาสนา ที่มีความสวยงามแห่งหนึ่งในประเทศตุรกี ชื่อของสีเหร่านี้ได้มาจากกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินที่ใช้ปูตลอดแนวฝาผนังด้านใน และถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ ซึ่งเคยเป็นวังของจักรพรรดิไบเซนไทน์ โดยสุลต่านอาหเม็ตที่ 1 ค.ศ. 1609 ใช้เวลาสร้างทั้งหมด 7 ปี
เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ สำหรับสถานที่ท่่องเที่ยวของประเทศตุรกี แต่ล่ะสถานที่นั้นช่างสวยงามและเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ และเชื่อว่าหลายๆท่านคงอยากไปเยือน
เมืองอันเปี่ยมไปด้วยไมตรีจิตแห่งนี้
|